Friday, August 7, 2009

วิธีสมัคร alertpay

Alertpay คืออะไร

Alertpay คือธนาคารออนไลน์แห่งหนึ่งบน Internet ที่เราสามารถโอนเงินจากเว็บหนึ่งไปยังอีกเว็บๆหนึ่งได้ และสามารถโอนเข้าธนาคารของประเทศไทยได้ในอนาคตสำหรับผู้ที่ทำงานบน Internet ส่วนใหญ่ก็ต้องรับเงินทาง Internet ด้วยเช่นกันส่วนน้อยที่จะได้รับเงินเป็น " เช็ค " เพราะฉะนั้นถ้าหากเราคิดที่จะหารายได้ผ่าน Internet แล้วละก็ คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะต้องสมัคร Alertpay ไว้ด้วยเช่นกัน


ทำไมเราถึงต้องสมัคร Alertpay

เพราะบางเว็บไซต์เขาจะจำกัด จุดหมายของการรับเงินดังเช่นจ่ายผ่านเช็ค หรือจ่ายผ่าน Alertpay หรือจ่ายทั้งสองแบบซึ่งเราไม่มีสิธเลือกได้เลยว่าจะให้เขาจ่ายเงินเราทางไหน เพราะเขาจะเป็นผู้กำหนดเองและ Alertpay ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัย และหน้าเชื่อถือไมแพ้ธนาคารออนไลน์แห่งอื่นเช่นกัน


วิธีสมัคร Alertpay


1. เข้าไปที่ www.alertpay.com คลิกปุ่ม Sign Up
2. เลือกบัญชีแบบ Personal Starter เพราะเหมาะกับการส่งเงินจำนวนไม่มาก และไม่มีค่าธรรมเนียมในการส่งเงิน แต่จะจำกัดจำนวนเงินที่จะส่ง สามารถเปลี่ยนแปลงได้
3. คลิกปุ่ม Get Start
4. กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มตามความจริงเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อเราเอง
5. คลิกปุ่ม Next มุมขวาล่าง
ุ6. หน้าต่อไปกรอกรายละเอียด Email และ Password
7. เลือกคำถามกันลืม และใส่ตัวอักษรให้ตรงกับภาพที่ปรากฎ
8. ใส่เครื่องหมายถูกหน้าประโยค I agree to alertpay’s term and conditions
9. คลิกที่ปุ่ม Register เพื่อเปิดบัญชี ลงทะเบียนเข้าใช้งาน
10. เปิด Email ที่สมัครไว้และเข้าไปเช็คอีเมลล์เพื่อยืนยันอีเมลล์ที่ทาง Alertpay ส่งมาให้
หลังจากที่เราคลิกเพื่อเปิดใช้บริการจากลิงค์ในอีเมลล์ ระบบจะเข้าสู่หน้า log in ให้เรา
11. ระบบจะให้เราใส่ รหัส Pin เป็นตัวเลข 4 -8 ตัว ไว้รักษาความปลอดภัยในกรณีส่งหรือรับเงิน จะต้องกรอก Pin ทุกครั้งใส่แล้วกดปุ่ม Submit

Thursday, August 6, 2009

ยำผัก-ผลไม้รวม

อาหารประเภทยำเป็นอาหารอีกประเภทที่นิยมกันทั่วไป

และมีการทำขายกันแพร่หลาย ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการค้าขายอาหารประเภทยำมานำเสนอ เป็นยำประยุกต์ เป็น “ยำผัก-ผลไม้รวม” ที่สีสันสวยงาม รสชาติแตกต่างจากยำทั่ว ๆ ไป เป็นอาหารสุขภาพ และก็เป็นอาชีพที่น่าสนใจด้วย

อวยพร เนียมสกุล เปิดร้านขายข้าวยำ-ข้าวคลุกกะปิที่ตลาดลุงเพิ่ม ตลาดนัดหลังบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และมี “ยำผัก-ผลไม้รวม” เป็น เมนูใหม่ที่ลูกค้าตอบรับเป็นอย่างดีด้วย ซึ่งเจ้าของร้านเล่าว่า พี่สาวและพี่เขยเชี่ยวชาญด้านสุมนไพร จึงปลูกฝังให้ได้รู้ถึงประโยชน์ของสมุนไพรไทยที่มีต่อสุขภาพด้วย

ด้วย ความที่ชอบทานผักผลไม้เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว บวกกับอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองจึงได้ลาออกจากงานประจำมาเข้าหุ้นส่วนกับ พี่สาวเปิดร้านขายข้าวยำทางเลือก อาหารพื้นเมืองของทางภาคใต้ ที่ใช้ผักสารพัดชนิด ต่อมาด้วยความที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือเรื่องสุขภาพ-อาหาร เลย ได้ไอเดียคิดเมนูใหม่ว่าน่าจะเป็นยำ คนทั่วไปชอบอาหารยำ ที่รสชาติจัดจ้าน แซ่บถึงใจ ไม่น่าเบื่อ และเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะคนกลัวอ้วน เมนูนี้น่าจะเวิร์ก

“ที่ สำคัญคือหยิบเอาวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วมาประยุกต์เป็นเมนูใหม่ เลือกวัตถุดิบที่มีประโยชน์ ความสด สะอาด และปลอดสารพิษ และน้ำยำที่ใช้เป็นน้ำยำประยุกต์ที่คิดดัดแปลงจนลงตัวพอดี”

วัตถุดิบ/ส่วนประกอบที่ใช้ทำก็มี... มะม่วงสับ, ส้มโอ, แครอท, ผักกาดหอม, ผักชีฝรั่ง, กะหล่ำปลีสีม่วง, หัวหอมแขก, ตะไคร้, พริกขี้หนู, ปลากรอบ, ถั่วลิสงคั่ว, เม็ดมะม่วงหิมพานอบหรือทอด, มะนาวฝานซีก เป็นต้น

สูตรน้ำยำที่ใช้ในการทำเมนูนี้... ใช้น้ำมะขามเปียก 5 กก. ต่อน้ำตาลปี๊บ 1,300 กรัม, เกลือป่น 4 ช้อนโต๊ะ, น้ำผึ้งเดือนห้า ? ถ้วยตวง และน้ำปลาอย่างดี ? ถ้วยตวง

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมดก็ใช้พ่วงจากการทำข้าวยำขาย เช่น เครื่องหั่น, เขียง, มีด, กะละมัง, ถาด, คีมคีบของ, กระทะ, ตะหลิว, ทัพพี, หม้อสแตนเลส ฯลฯ

ขั้นตอนการทำ “ยำผัก-ผลไม้รวม” ไม่ มีอะไรยุ่งยากมาก เริ่มจากการทำน้ำยำก่อนเป็นอันดับแรก โดยนำส่วนผสมที่ตวงตามสูตร เช่น น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำปลา และน้ำผึ้งเดือนห้า ใส่หม้อสแตนเลส ใช้ทัพพีคนให้ส่วนผสมเข้ากันและน้ำตาลละลายดี ยกขึ้นตั้งไฟเคี่ยวไปเรื่อย ๆ ด้วยไฟกลาง ๆ ซึ่งต้องคอยคนตลอด ห้ามเร่งไฟแรงเพราะจะไหม้ เคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง พอน้ำยำข้นดีแล้วก็ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น

นำผัก-ผลไม้ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แครอทนำมาปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นเส้นยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ผักชีฝรั่งก็หั่นหยาบ ๆ เตรียมไว้ มะม่วงปอกเปลือกสับเป็นเส้น ๆ ส้มโอแกะทำเป็นกลีบ มะนาวผ่าซีก กะหล่ำ สีม่วงนำมาหั่นฝอย ตะไคร้หั่นฝอย พริกขี้หนูและหัวหอมแขกหั่นเตรียมไว้ ผักกาดหอมก็เช่นเดียวกัน จากนั้นก็นำผัก-ผลไม้ที่เตรียมไว้ใส่ภาชนะเข้าตู้เย็น เพื่อคงความสดเอาไว้

ถั่วลิสง คั่วใช้วันต่อวันเพื่อความสดใหม่-ความหอม ปลากรอบ จะส่งตรงมาจาก จ.ตรัง ทุกอาทิตย์

คุณ อวยพรบอกถึงผลดีการทำน้ำยำแบบนี้ว่า ทำให้ยำมีความกรอบนาน นิ่มช้าลง และสามารถแยกน้ำยำใส่ถุงได้สะดวก ถ้าต้องการรสชาติจี๊ดจ๊าดขึ้นก็บีบมะนาวเติมทีหลังได้ น้ำยำแบบนี้คล้ายกับน้ำปลาหวาน สามารถดัดแปลงเอาไปใส่ในผลไม้พวกมะม่วง กระท้อน ส้มโอ้ได้ ช่วยลดความเปรี้ยวของผลไม้ที่เปรี้ยวจัด

ยำผัก-ผลไม้รวมจะมีรสชาติกลมกล่อม แต่จี๊ดจ๊าด เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม น่าจะถูกปากคนไทยทุกภาค

ราคาขาย “ยำผัก-ผลไม้รวม” ที่ร้านนี้ขายชุดละ 40 บาท (แพ็คใส่กล่องพลาสติก) ต้นทุนประมาณ 65% ของราคาขาย

ร้านของคุณอวยพรอยู่ที่ศูนย์อาหารตลาดลุงเพิ่ม หลังการบินไทย วิภาวดี 22 กรุงเทพฯ โทร.08-4139-3849, 08-1403-2509 นอก จากขายที่ร้านแล้วยังสามารถทำเงินเพิ่มจากการรับจัดส่งอาหารตามงานสัมมนา ต่าง ๆ รวมทั้งรับออกร้านงานเลี้ยงนอกสถานที่ เป็นอีกกรณีตัวอย่าง “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ

คู่มือลงทุน...ยำผัก-ผลไม้รวม

ทุนเบื้องต้น อยู่ที่รูปแบบการขาย
ทุนวัตถุดิบ ไม่เกิน 65% ของราคา
รายได้ ราคาขาย 40 บาท/ชุด
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านอาหาร, ย่านชุมชน
จุดน่าสนใจ เพื่อสุขภาพเป็นจุดขาย

เดลินิวส์

การเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง

การเริ่มต้น ธุรกิจ : ทางเลือก

"จงปฏิบัติต่อผู้อื่น
เช่นที่ท่านต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน
และ "จงให้" แล้ว ท่านจะเป็นผู้ได้ "รับ"
คือ กฏประการสำคัญ ของนักประกอบการ"


ยอร์จ กิลเดอร์









ธุรกิจที่คุณคิดจะริเริ่มนั้น ถ้าเป็นไปได้ ควรจะเป็นแนวความคิดใหม่ๆ

วิธีที่จะได้แนวความคิดใหม่ๆ ได้ก็คือ

คุณจะต้องมีความตั้งใจ
ที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง หรือ พร้อมที่จะสนองความต้องการของผู้คน
ซึ่งมักจะมีความไม่พอใจเกิดขึ้นอยู่เสมอ


การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆนี้ ควรจะมีรากฐาน มาจากสิ่งที่คุณมีความรู้

งานในปัจจุบันที่คุณทำอยู่ คือ แหล่งข้อมูลอันดี ที่จะทำให้คุณเกิดแนวความคิด และ มองเห็นภาพขึ้น

หรือ บางที คุณอาจจะคิดประดิษฐ์สิ่งแปลกๆใหม่ๆ โดยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้ เพราะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องใช้ในบ้านจำนวนมาก ที่เกิดขึ้นมาด้วยวิธีนี้

บางครั้ง งานอดิเรก ก็กลายเป็นตัวนำ ให้คุณพบกับโอกาสดังกล่าวได้...

งานอดิเรก n.a hobby





















คุณเอง ก็สามารถกระทำในสิ่งที่มีลักษณะเดียวกันนี้ได้

แต่ ในตอนแรก คุณจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ประจำวัน และ มองหาความต้องการ ที่ไม่มีผู้ใดสนองได้เสียก่อน

ซึ่งความคิดดังกล่าว ควรจะฝึกฝนให้เป็นลักษณะนิสัยประจำตัว
คำแนะนำ วิธีการง่ายๆ คือ
หาสมุดพกไว้สักเล่มหนึ่ง
ในหน้าหนึ่งนั้น เขียนไว้บนหัวกระดาษว่า "ความต้องการ"
ส่วนหน้าต่อไป ก็เขียนไว้ว่า "ความผิดพลาด"
และ จดสิ่งที่คุณได้พบเห็น และ บังเกิดความไม่พอใจ ลงไว้ แม้เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็น

สิ่งที่คุณต้องการแล้ว ไม่ได้
สินค้าที่ซื้อมาแล้ว และ พบว่า มีคุณภาพเลว

หรือ ในเรื่องของการทำงานก็เช่นกัน จงอย่าละเลย ที่จะบันทึกข้อบกพร่องต่างๆ หรือ ข้อมูลที่ไม่อาจหามาได้

จงบันทึกในสิ่งที่ฝ่ายบริหาร ได้มองข้ามไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องตลาด หรือ การปฏิบัติต่อลูกค้า

ถ้าคุณสามารถกระทำในสิ่งนี้ ได้อย่างเหมาะสม ก็เท่ากับคุณกำลังมองลึกเข้าไปในตนเอง

มิเช่นนั้น คุณก็จะพลาดในสิ่งต่างๆ ที่เป็นความต้องการของมนุษย์ และ ก่อให้เกิดความผิดพลาดตามมาได้

ในทุกๆวันที่ผ่านไป
คุณจะได้พบว่า คุณมีความต้องการในอะไรบางสิ่งที่มิได้มีอยู่


เมื่อใดก็ตาม ที่คุณจะนำวิธีการดังกล่าวนี้ เข้ามาใช้
คุณก็จะเปรียบเสมือนคนตาบอด ที่เกิดมองเห็นขึ้นมาได้ในทันทีทันใด


การ ใช้เวลาเล็กๆน้อยๆ ให้เป็นประโยชน์ โดยการทำธุรกิจ ที่สามารถสนองความต้องการของคนอื่นๆได้เช่นนี้แหละ ที่จะกรุยทาง ให้เราก้าวไปสู่ความเป็นสักประกอบการที่ยิ่งยงในอนาคต ได้ในไม่ช้า


โอกาสดังกล่าว
ได้ก่อให้เกิดบริษัท ที่สร้างผลกำไรให้เกิดขึ้นได้อย่างงดงามมาแล้วเหลือคณานับ









เมื่อถึงเวลาหนึ่ง แนวความคิดที่คุณต้องการ ก็จะสว่างแวบขึ้นมาในใจ และ แล้ว การประกอบการธุรกิจของคุณก็จะเริ่มต้นขึ้น








การ ฝึกฝน ที่คุณมอบให้แก่ตนเอง ด้วยการวิเคราะห์ในความต้องการของผู้อื่น จะช่วยคุณได้ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารที่ดี บริการที่ดี คุณภาพที่ดี

ความต้องการของคุณ ก็คือ ความต้องการของคนอื่นๆด้วย

คนเราทุกคน ล้วนแล้วแต่มีความต้องการที่เหมือนๆกัน แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเรา จะแตกต่างกันก็ตาม

ความไม่พอใจ และ ความปราถนาของคุณ ก็คือ ความรู้สึกของเพื่อนบ้าน
ดังนั้น โอกาสของคุณ จึงมีอยู่ในการวิเคราะห์ตนเอง หรือ วิเคราะห์ในความต้องการของผู้อื่น







ถ้าคุณแสวงหาโอกาสดังกล่าว อย่างจริงจัง โอกาสก็ย่อมจะมีมา
เมื่อไรที่คุณพร้อม สิ่งที่คุณแสวงหา ก็จะรอคุณอยู่

การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ใหม่ และ ดีกว่า...
การสร้างงานที่โดดเด่น
การคิดประดิษฐํ และ สร้างผลิตภัณฑ์ หรือ สินค้าชนิดใหม่ๆออกมา
แม้ว่าจะต้องใช้ความสามารถเป็นพิเศษ ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีอยู่บ้าง
แต่ มันก็มิใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป

และ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคุณได้เริ่มกิจการขึ้นมาแล้ว คุณก็จะจับวิธี หรือ หนทางอันจะให้เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าของคุณได้

ซึ่ง อาจเป็นหนทางที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน








ประสบการณ์ และ การศึกษาในความต้องการของลูกค้าเท่านั้น ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ

อเล็กซานเดอร์ ที. สจ๊วต
อาชีพแรกของเขา คือ ครู
ตลอดเวลานั้นเขาแสวงหา และ ครุ่นคิด เกี่ยวกับความต้องการของผู้อื่น
เขารับฟัง และ จับสังเกตอยู่ว่า ทำอย่างไร จึงจะทำให้ผู้อื่นพอใจ และ ไม่พอใจ

และ นั่นคือ สิ่งที่คุณเอง ก็ควรจะต้องทำ









จากการลงทุนด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด ไปจนกระทั่งการลงทุน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ กฏเกณฑ์ส่วนใหญ่ก็เหมือนๆกัน คือ

คุณพยายามที่จะทำอะไรบางอย่าง ให้แปลก หรือ ดีกว่าสิ่งที่ใครๆ กระทำกันอยู่








ขอให้ดูจากงานขายบริการอย่างง่ายๆ คือ บริการขัดรองเท้า

คนส่วนมากอาจคิดว่า มันเป็นงานที่ต่ำต้อย

..แต่ไม่มีงานใดที่มนุษย์กระทำลงไปแล้ว จะเป็นการไร้ศักดิ์ศรี
งานทุกอย่าง เป็นงานที่มีเกียรติ และ มีค่าควรแก่การทำทั้งสิ้น


เมื่อ คุณสามารถสนองความต้องการของเพื่อนมนุษย์ ไม่ว่างานนั้น จะเป็นงานในระดับต่ำสักเพียงไร ก็เท่ากับคุณได้ปฏิบัติ ตามกฏขั้นมูลฐานของการค้า และ การสร้างฐานะของตนเอง โดยสมบูรณ์แล้ว

ทำในสิ่งที่เหนือกว่าบริการในระดับปัจจุบัน หรือ วิธีการที่ใครคนอื่นทำกันอยู่

คุณ จะได้รับผลสนองตอบ ต่อสิ่งที่คุณประดิษฐ์ขึ้นมา ก็ต่อเมื่อ คุณเอามันเข้าไปวางลงในตลาด และ ลุกค้า หยิบมันขึ้นมาเท่านั้น

มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราจะทำเงินขึ้นมาเป็นจำนวนมากๆ...
เพราะ มินมิใช่เรื่องง่าย ที่คนเราจะมีความยึดมั่นในอุดมการณ์ของตนเองอย่างเหนียวแน่น และ พยายามจะผลักดันสินค้า หรือ บริการของตน เข้าสู่มือลูกค้าอย่างไม่ทดท้อต่ออุปสรรคนาสัปการ

ศัพท์เทคนิค ในวงการธุรกิจ ที่คุณแสวงหาอยู่ก็คือคำว่า "ช่องว่างในตลาด"








ธุรกิจ ที่จะลงทุน จะต้องเป็นผลที่เนื่องมาจากการค้นพบวิธีการที่ใหม่กว่า ดีกว่า หรือ การมองเห็นช่องว่างที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไป เพื่อเติมช่องว่างนั้นให้เต็ม

พูดง่ายๆ ก็คือ คุณมองหาวิธี ที่จะแก้ปัญหา หรือ สนองความต้องการของผู้บริโภคนั่นเอง


เฮนรี่ ไกเซอร์ ได้กล่าวว่า

"คุณจะต้องตั้งเป้าหมายไว้ว่า คุณสามารถจะเสนอบริการได้ดีเพียงไร
ถ้าคุณตั้งเป้าหมายที่แน่นอน คุณก็ควรจะแสวงหาบริการใหม่ๆ เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้..."

เมื่อใดก็ตาม
ที่ ผมเห็นความต้องการที่ไม่สมปรารถนา ผมจะเกิดความรู้สึกกระตุ้นขึ้นมาในใจว่า จะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อที่จะให้มันเกิดความสมบูรณ์ขึ้นมาให้ได้

"โอกาสที่จะพัฒนา หรือ ผลิตสินค้า หรือ บริการใหม่ๆ นั้น กว้างใหญ่ไพศาลแบบเดียวกับแนวความคิด หรือ ความต้องการของมนุษย์นั่นแหละ"










ขณะที่เราขับรถผ่านเข้าไปในเมือง ที่ไม่เคยรู้จักนั้น เราเต็มไปด้วย ความอ่อนเพลีย เหน็ดเหนื่อย และ หิวโหย

มันเป็นเวลาค่ำมาก จนเกินกว่าที่เราจะหวังว่า จะหาร้านอาหารดีๆ นั่งรับประทานกันได้
ทันใดนั้น เมื่อเราขึ้นไปถึงเนินเขา ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พัก เรารู้สึกโล่งใจเป็นอันมาก
ลูกชายของผม ตะโกนออกมาด้วยความดีใจว่า " McDonald "

อะไรเป็นเหตุผล
ให้ครอบครัวเล็กๆของผม และ ลูกค้าคนอื่น แสดงความโล่งใจออกมา เมื่อได้เห็นป้าย แม๊คโดนัลด์ เด่นอยู่ตรงชานเมืองอขงเมืองแวนคูเวอร์

คำตอบก็คือ
เพราะ แม๊คโดนัลด์ สามารถตอบสนองความต้องการของเราได้








เราต้องการความมั่นใจว่า จะได้รับประทานอาหารดีๆ
ต้องการบริการเร่งด่วน
เรา ไม่ต้องการจะไปในสถานที่ซึ่ง ต้องนั่งลง รอ และ เต็มไปด้วยความวิตกกังวลว่า สภาพของเราเป็นอย่างไร แต่งตัวเหมาะสมกับสถานที่หรือไม่

ถ้าเราพิจารณมถึงช่องว่างในตลาดที่ แม็คโดนัลด์ เข้ามาเติมให้เต็ม เราก็จะได้พบสิ่งที่นำความสำเร็จ มาสู่นักประกอบการที่ยิ่งใหญ่ ของอเมริกา ดังนี้





คุณภาพ : อาหารจะต้องดีเสมอ
การจัดจำหน่าย : พบได้ในทุกหนทุกแห่ง
ความรวดเร็ว : ไม่ต้องมีการรอคอย หรือ ล่าช้า
ความไม่มีพิธีรีตอง : ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่
ความไว้ใจได้ : อาหารจะมีรสชาติเช่นเดิม
บริการ : ให้ความสนใจ และ รวดเร็ว
ความสะอาด : ไม่มีสิ่งใด ที่ชวนใจให้ไม่อยากเข้าไปนั่งรับประทาน
บริกร : แต่งตัวสะอาด และ ให้ความสนใจในลูกค้า
เมนู : มีอาหารทุกชนิดให้เลือก
ราคา : เป็นราคาที่สมเหตุผล







เหตุผลที่ทำให้บริษัทนี้ มีความเจริญรุ่งเรือง ก็เป็นเหตุผลเดียว กับ การลงทุนในธุรกิจประเภทอื่น

"ผมได้พบความก้าวหน้านั้น อย่างช้าๆ ว่า ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือ บริษัทธุรกิจก้ตาม หลักการที่เป็นสัจธรรมที่สุด คือ
เงินทุกเหรียญที่จ่ายไป จะต้องได้รับคุณภาพที่คุ้มค่ากลับมา"